ประเพณีบวชนาคช้าง เป็นพิธีกรรมทางพุทธศาสนาอันเก่าแก่ที่สืบทอดกันมาในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ หรือชาวกูย (หรือกวย) ในจังหวัดสุรินทร์ โดยเฉพาะที่บ้านตากลาง ตำบลกระโพ อำเภอท่าตูม ซึ่งเป็นที่รู้จักกันในนาม "หมู่บ้านช้าง" ซึ่งมีชื่อเสียงเรื่องช้างและวัฒนธรรมของชาวกูยหรือชาวกวย ซึ่งเป็นกลุ่มชาติพันธุ์ที่มีความผูกพันกับช้างมาอย่างยาวนาน
ชาวกูยมีความเชื่อว่าชายหนุ่มที่มีอายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ควรเข้าพิธีอุปสมบทเพื่อศึกษาธรรมวินัยก่อนจะมีครอบครัว การบวชถือเป็นการทดแทนพระคุณบิดามารดา และเป็นการแสดงความศรัทธาในพระพุทธศาสนา
พิธีบวชนาคช้างมีลักษณะเด่นคือ การจัดขบวนแห่นาคโดยใช้ช้างแทนม้า หรือรถยนต์เหมือนในพิธีทั่วไป ชาวบ้านจะตกแต่งช้างอย่างสวยงามด้วยผ้าสีสดและเครื่องประดับ ขบวนแห่มีทั้งดนตรีพื้นบ้าน การฟ้อนรำ และบรรยากาศครึกครื้นแสดงให้เห็นถึงความสามัคคีและความเลื่อมใสศรัทธาในพุทธศาสนา
พิธีนี้มักจัดขึ้นในช่วงเดือนเมษายนซึ่งตรงกับช่วงปิดภาคเรียนและเทศกาลสงกรานต์ เป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมต่อการอุปสมบทของชายไทยตามประเพณี โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อทดแทนคุณบิดามารดา และส่งเสริมให้เยาวชนมีโอกาสเข้ามาเรียนรู้ธรรมะ
ลำดับพิธีกรรม
พิธีบวชนาคช้างมักจัดขึ้นในช่วงวันขึ้น 13 - 15 ค่ำ เดือน 6 ของทุกปี ซึ่งตรงกับวันสำคัญทางพุทธศาสนา ได้แก่ วันประสูติ ตรัสรู้ และปรินิพพานของพระพุทธเจ้า
วันแรก (ขึ้น 13 ค่ำ เดือน 6): พิธีปลงผมนาคและพิธีบายศรีทำขวัญนาคที่บ้านของนาคแต่ละคน
วันที่สอง (ขึ้น 14 ค่ำ เดือน 6): ขบวนแห่นาคขึ้นหลังช้างไปยังสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ เช่น วังทะลุ เพื่อไหว้เจ้าปู่
วันสุดท้าย (ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6): พิธีอุปสมบทที่วัดแจ้งสว่าง และจากนั้นพระทุกรูปสามารถไปจำพรรษาตามวัดที่ต้องการได้
เอกลักษณ์ของพิธี
ขบวนแห่นาคบนหลังช้าง เป็นจุดเด่นของประเพณีนี้ โดยนาคจะนั่งบนหลังช้างที่ตกแต่งอย่างสวยงาม พร้อมด้วยขบวนดนตรีพื้นบ้านและการฟ้อนรำ
การแต่งกายนาค นาคจะสวมชฎา เสื้อแขนยาวสีขาว นุ่งโสร่งไหม และประดับด้วยผ้า 7 สีที่สวยงาม
สถานที่ประกอบพิธี พิธีอุปสมบทมักจัดขึ้นที่ "ดอนบวช" หรือ "สิมน้ำ" ซึ่งเป็นเนินดินกลางแม่น้ำที่เกิดจากลำน้ำชีไหลมาบรรจบกับแม่น้ำมูล