วัดช้างหมอบ หรือ ที่ชื่ออย่างเป็นทางการว่า วัดมงคลคชาราม
เป็นวัดหลวงพ่อพวนเกจิชื่อดังของเมืองสุรินทร์จำพรรษาอยู่ และยังเป็นสถานที่สำคัญแห่งหนึ่งของจังหวัดสุรินทร์ มีความสวยงามและยังคงรักษาความเป็นธรรมชาติ ทั้งภูเขาและป่าไม้เหมาะแก่การปฎิบัติธรรม และท่องเที่ยวเชิงธรรมมะของประชาชนชาวจังหวัดสุรินทร์ และนักท่องเที่ยวทั่วไป นิยมนมัสการพระพิมลพัฒนาทร หรือหลวงพ่อพวน วรมงฺคโล(วรระมังคะโล เจ้าอาวาสวัดช้างหมอบ) (วัดมงคลคชาราม) อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งเป็นพระเกจิชื่อดังเป็นพระสงฆ์ผู้มีพรหมวิหารธรรม เป็นพระสุปฏิปันโน เป็นผู้ทำคุณประโยชน์ต่อชาวจังหวัดสุรินทร์ ที่พุทธศาสนิกชนทั่วไปนิยมไปกราบนมัสการ (ปัจจุบันมรณภาพแล้ว)
ประวัติความเป็นมา
จุดเริ่มต้น : เมื่อราวปี พ.ศ. 2517-2518 หลวงพ่อพวน (พระพิมลพัฒนาทร) เดินธุดงค์มาตามแนวชายแดนไทยกัมพูชา พบถ้ำบนเนินเขาพนมดงรัก และพักปฏิบัติธรรมในบริเวณนั้น ก่อนจะสร้างวัดขึ้นภายหลัง
แต่งตั้งเป็นวัด : พัฒนาขึ้นจากสำนักสงฆ์เป็นวัดอย่างเต็มรูปแบบ ภายใต้การนำของหลวงพ่อพวน ซึ่งต่อมาได้รับสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญ (พระพิมลพัฒนาทร) เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2549




มีนามเดิม พวน แก้วหล่อ เกิดเมื่อวันพุธที่ 15 เม.ย.2472 ที่บ้านตราด หมู่ที่ 2 ต.คอโค อ.เมือง จ.สุรินทร์



ท่านมีบุคลิกเคร่งครัดในวัตรปฏิบัติ ศึกษาธรรมะ และธุดงค์ปฏิบัติธรรมหลายพื้นที่ โดยเฉพาะสถานที่ธรรมชาติริมแนวชายแดน ท่านมีชื่อเสียงด้านการเสริมดวงบารมี ทำนายดวง และช่วยเหลือชาวบ้านตามหลักพุทธพหุเศรษฐกิจและเมตตาธรรม แม้ในวัยสูงอายุ 87 ปี (พ.ศ. 2559) ท่านยังดำเนินกิจกรรมปฏิบัติศาสนกิจและให้คำแนะนำชาวบ้านจนมรณภาพเมื่อวันที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2559
พระปรางค์กุญชรมณีศรีไตรยอดเพชร
เริ่มก่อสร้าง : เมื่อ 9 มีนาคม พ.ศ. 2552
โครงสร้าง : ประกอบด้วยองค์ปรางค์หลัก 3 ยอด และปรางค์บริวาร 8 ทิศ
ขนาดฐาน : กว้าง 70 × 100 เมตร สูงประมาณ 5 เมตร
วัสดุและลวดลาย : ใช้หินศิลาแลงกับปูนผสม ตกแต่งลวดลายไทยขอม สุเหร่แนวพระธาตุพนมและนครวัด โดยหลวงพ่อพวนเป็นผู้ออกแบบเอง แต่ยังสร้างไม่เสร็จสมบูรณ์ (ประมาณ 60%)






รอยพระพุทธบาท
ตั้งอยู่เหนือถ้ำที่หลวงพ่อพวนเคยใช้ปฏิบัติธรรม มีรอยพระพุทธบาทขนาดกว้างประมาณ 33 นิ้ว ยาว 56 นิ้ว และสร้างมณฑปครอบเพื่อให้ผู้ศรัทธามาสักการะ
การค้นพบและที่มาของรอยพระพุทธบาท
หลวงพ่อพวน (พระพิมลพัฒนาทร) เดินธุดงค์มาปฏิบัติธรรมในบริเวณถ้ำบนเนินเขาพนมดงรักตั้งแต่ช่วงปี พ.ศ. 2517 - 2527 จนกระทั่งพบว่ามี ลำแสงสว่างหลายสีลอยเหนือรอยพระพุทธบาทในเวลากลางคืน โดยเฉพาะช่วงวันพระ จะเห็นแสงสว่างทอดยาวถึงตี 1 ห้อมล้อมด้วยต้นตะเคียนใหญ่บริเวณใกล้เคียง




เมื่อก้าวเข้าสู่เขตวัดช้างหมอบ สิ่งแรกที่สัมผัสได้คือ ความเงียบสงบและอากาศบริสุทธิ์ ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของวัดที่ตั้งอยู่บนเนินเขาเตี้ย ๆ ในแนวเทือกเขาพนมดงรัก บริเวณชายแดนไทยกัมพูชา บรรยากาศโดยรอบโอบล้อมด้วยผืนป่าไม้เขียวชอุ่ม ต้นไม้ใหญ่ยืนต้นเรียงรายราวกับเฝ้ารอรับญาติโยมและผู้แสวงบุญที่มาเยือน
ยามเช้า สายหมอกบาง ๆ ลอยคลุมยอดไม้ เสมือนม่านแห่งธรรมะที่ช่วยกล่อมจิตใจให้ผ่อนคลาย ขณะที่แสงอาทิตย์แรกของวันสะท้อนผ่านยอดปรางค์ทั้งสามของพระปรางค์กุญชรมณีศรีไตรยอดเพชร ก็ยิ่งเสริมพลังแห่งศรัทธาและความศักดิ์สิทธิ์ หากมาช่วงเย็น จะได้ชมภาพแสงสีทองของพระอาทิตย์ตกดินที่ทอดเงาผ่านพระปรางค์และต้นไม้ใหญ่ ดูงดงามราวฉากในภาพยนตร์ และมักเป็นช่วงเวลาที่ผู้คนเลือกมาเดินจงกรมหรือสนทนาธรรมอย่างเงียบสงบ
สิ่งอำนวยความสะดวก
ทำไมวัดช้างหมอบถึงควรค่าแก่การเยือน








โรงแรมในจังหวัดสุรินทร์ ใกล้ตัวเมือง
ข้าวอินทรีย์สุรินทร์
เราคัดสรรข้าวอินทรีย์ชั้นเยี่ยมพันธุ์ดีเพาะปลูกด้วยแนวทางเกษตร อินทรีย์ เช่น ข้าวหอมมะลิ, ข้าวกล้องหอมมะลิ, ข้าวกล้องปะกาอำปึล, ข้าวผสมห้าสายพันธุ์, ข้าวมะลินิลสุรินทร์ ข้าวไรซ์เบอรี่ และ ข้าวมะลิแดง เพาะปลูกปีละครั้งในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ เราใส่ใจในทุกกระบวนการเกษตรอินทรีย์ วิถีธรรมชาติ จากที่นาอินทรีย์ส่งมอบคุณค่าเพื่อสุขภาพ ข้าวอินทรีย์ 100% จากมือชาวนาสู่ผู้บริโภค
ผลิตภัณฑ์ "ข้าวเกษตรอินทรีย์สุรินทร์" ของเราได้รับมาตรฐานดังต่อไปนี้
"มาตรฐานเกษตรอินทรีย์ไทย" ("Organic Thailand")
มาตรฐาน "PGS Thailand" การรับรองเกษตรอินทรีย์แบบมีส่วนร่วม
"ข้าวพันธุ์แท้" จากกรมการข้าว จากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
ของดีเมืองสุรินทร์ Surin Best
GI ข้าวหอมมะลิสุรินทร์ Surin Hommali Rice